"คุณรู้ไหมอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากสินค้าหรือบริการของคุณ"
คุณลองคิดในใจ ภายใน 4 นาทีนี้หากคุณคิดไม่ออกคุณอย่าขายสินค้าหรือบริการของคุณเลยครับ เพราะว่า มัน " เสียเวลาขาย "
ทำอย่างไรคุณก็ไม่มีวันขายได้
แค่คำถามข้อแรกคุณยังตอบไ่ม่ได้ ในขณะที่คุณเป็นผู้ทำการตลาดเองคุณยังเจาะปัญหาในข้อนี้ไม่ได้
นี่คือปัญหาที่่ทำให้ คุณไม่สามารถจูงใจลูกค้าเป้าหมายของคุณให้ทำการซื้อได้ เอาอย่างนี้แล้วกันผมจะช่วยคุณเอง อย่างน้อยก็เป็นการตอบแทนคุณ ที่ไว้วางใจเข้ามาอ่านบทความของผม
คุณต้องจำไว้ว่า ลูกค้าหรือผู้ที่ตัดสินใจซื้อสินค้านั้นจะใช้ " อารมณ์ " ในการตัดสินใจซื้อเป็นส่วนมาก หรือถ้าวัดเป็น % ก็กว่า 90% นั่นเอง คุณเอยได้ยินคำว่า " อารมณ์ " พาไปไหมครับ หากคุณสามารถใช้ถ้อยคำจูงใจ และกระตุ้นทางอารมณ์ ได้มากเพียงใดคุณก็จะสามารถขายสินค้า บริการ หรือโอกาสทางธุรกิจของคุณได้มากเท่านั้น
ผมจะขอยกตัวอย่างการโฆษณาสินค้าสักตัวหนึ่งแล้วกันเพื่อคุณจะได้เห็นผลของมันอย่างชัดเจน
ในที่นี้ผมจะขอยกตัวอย่าง สินค้าที่เป็นที่นิยมตอนนี้อย่าง iphone ของเจ้าพ่อ Apple หน่อยก็แล้วกัน เอาล่ะครับเรามาเริ่มที่ประโยคโฆษณาประโยคแรก
" iphone 4 โฉมไหมพร้อมความจุที่มากขึ้น รูปลักษณ์ทันสมัย ทนทานบางกว่าเดิม ภาพหน้าจอชัดกว่าเดิมมากเลย "
คุณเห็นประโยคโฆษณานี้แล้วเป็นอย่างไรครับ รู้สึกอย่่างไร แน่นอนคุณต้องคิดในใจว่า " แล้วไงล่ะ แน่นอนราคาตั้งแพงต้องทนทาน หน้าจอต้องชัดกว่าเดิมอยู่แล้ว หาก iphone 4 เหมือน iphone 3 ก็ไม่จำเป็นต้องมีการพัฒนา iphone 4 ขึ้นมาสิ " ลองมาเปรียบเทียบกับโฆษณาที่ 2 กัน
ประโยคโฆษณาประโยคที่ 2
" iphone 4 ช่วยให้คุณถ่ายรูป Up ลง Facebook ได้เร็วขึ้น คุณจะเด่นและทันสมัยกว่าใครเพื่อนๆ ของคุณใช้ iphone 4 แล้วใช่หรือไม่ แล้วคุณล่ะไม่ใช้หรือ ไม่อายเพื่อนๆ หรือครับ ติดต่อเราสิครับ เรายินดีมอบราคาพิเศษ พร้อมของแถมมากมาย แค่นี้คุณก็สามารถมี iphone 4 โดยไม่ต้องอายใคร นำสมัยกว่าใคร คุณจะรู้สึกภูมิใจกับ iphone เครื่องใหม่เอี่ยมของคุณ หากช้าคุณจะพลาดโอกาสนี้ตลอดกาล "
เป็นอย่างไรครับรู้สึกอย่างไรกับโฆษณานี้ โฆษณานี้เป็นตัวอย่างของการเน้นทางด้านอารมณ์ของลูกค้าเป้าหมาย เหตุผลที่ทุกๆ คนซื้อ iphone คือเพื่อให้ทันสมัย และสร้างความภูมิใจให้กับตนเอง เพราะการมี iphone เป็นสิ่งที่ทันสมัย ส่วนเรื่องคุณสมบัติของสินค้านั้น เป็นเรื่องรองลงไป อีกทั้งยังมีการสร้างอารมณ์แห่งความหวาดกลัว ว่า หากช้าคุณจะพลาดโอกาสไปเลย เป็นการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนรองด้านอารมณ์ให้ซื้ออีกต่างหาก
ฉะนั้นหากคุณทำการตลาดโดยจับที่อารมณ์ ที่ลูกค้าเป้าหมายจะได้รับจากสินค้า หรือบริการของคุณได้ คุณจะสามารถขายสินค้า และบริการของคุณได้ อย่างแน่นอน และอย่างยั่งยืน
เลิกเสียทีเถอะครับการทำโฆษณา และการตลาดแบบเดิม มาเริ่มต้นใช้การตลาดที่เน้นอารมณ์ให้มากขึ้น เน้นในสิ่งที่ลูกค้าเป้าหมายได้รับจากสินค้าของคุณจริงๆ คิดประโยคโฆษณาทางด้านอารมณ์ ที่เด็ดๆ ของคุณสัก 4-5 ประโยคแล้วลองลงโฆษณา คุณอาจจะเจอประโยค ที่จะทำให้สะดุดใจคน และสิ่งที่ตามมาคือ ยอดขายสินค้า บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
แต่ถ้าหากคุณยังคงดื้อดึงจะโฆษณาแบบเดิมต่อไป และเห็นว่าสิ่งที่ผมแนะนำเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดผล ผมคงช่วยเหลืออะไรคุณไม่ได้ ผมลองแล้วและได้ผล แต่หากคุณไม่ลองก็เป็นสิทธิของคุณที่คุณจะเลือก อย่ามาว่าผมทีหลังก็แล้วกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น